วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

แนะนำ 8 ร้านอาหารฝรั่งเศสสุดเลิศในปารีส

แนะนำ 8 ร้านอาหารฝรั่งเศสสุดเลิศในปารีส

Chez Julien (เชซ์ ฌูเลียง)
ร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1870 บรรยากาศจึงมีกลิ่นอายของยุคศตวรรษที่ 20 ครบถ้วน ด้านในตกแต่งอย่างคลาสสิกด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตนูโวที่เน้นกระจกบานใหญ่และการแกะสลักขอบกำแพงและเพดานอันวิจิตรงดงามจนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมือง
ส่วนเมนูอาหารเป็นแบบฝรั่งเศสดั้งเดิมที่เน้นการใช้วัตถุดิบชั้นยอด เสิร์ฟเป็นคอร์สตั้งแต่ starter, main course และปิดท้ายด้วยของหวานตามสูตร ถ้าอยากลอง Escargot หรือเมนูหอยทากที่นิยมรับประทานเป็น starter ในฝรั่งเศสและสเปนแล้ว ร้านนี้จัดได้ว่าแจ่มเลย
ราคา: Lunch Course เริ่มต้นที่ 26 ยูโร อาหารจานหลักทั่วไปเริ่มต้นที่ 28 ยูโร ควรจองล่วงหน้า
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Pont Marie
เว็บไซต์: www.julienparis.com
Café Marly (กาเฟ่ มัคร์ลี่)
ร้านอาหารสุดหรูบริเวณพิพิธภัณฑ์ Louvre ที่สามารถกินลมชมวิวพิระมิดแห่งลูฟวร์ได้อย่างจุใจ ถ้าไม่ใช่ฤดูหนาวควรเลือกจองที่นั่งตรงระเบียงด้านนอกที่บรรยากาศดีมากๆ แต่ถ้ามาหน้าหนาวก็ควรเลือกนั่งด้านในที่หรูหราไม่แพ้กันแทน แต่ถ้าใครทนหนาวได้ก็ไม่ว่ากัน
เมนูอาหารเน้นไปที่ความร่วมสมัยและความคิดสร้างสรรค์ที่นำเสนอออกมาได้อย่างหรูหราด้วยวัตถุดิบคุณภาพชั้นดี แถมยังคงเทสต์ความเป็นฝรั่งเศสดั้งเดิมได้อย่างเยี่ยมยอด นอกจากอาหารจานหลักที่อร่อยมากแล้ว ของหวานยังรสชาติดีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ Mille-feuille (มิลล์-เฟยล์) ที่นุ่มละมุนชวนฝันมากๆ
ราคา: อาหารจานหลักเริ่มต้นที่ 26 ยูโร ควรจองล่วงหน้า
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Palais Royal Musée du Louvre
เว็บไซต์: cafe-marly.com/fr
Jules Verne (จูลส์ แวร์น)
ร้านอาหาร French Gastronomy แท้ๆ บนชั้น 2 ของหอไอเฟลที่สูงจากระดับพื้นด้านล่างประมาณ 125 เมตร ไม่เพียงแต่ร้านอาหารบรรยากาศเลิศหรูแห่งนี้จะเสิร์ฟคอร์สอาหารตำรับฝรั่งเศสที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากภูมิภาคต่างๆ แล้ว บรรยากาศด้านในยังได้อรรถรสจากการดีไซน์อย่างเรียบหรูของ Patrick Jouin นักออกแบบตกแต่งภายในชื่อดัง
อีกทั้ง วิวจากมุมสูงบนหอไอเฟลที่มองไปเห็นสวน Champ de Mars แม่น้ำแซน และบริเวณรอบๆ ก็ยิ่งเพิ่มบรรยากาศความโรแมนติกจนคิดว่ากำลังอยู่ในความฝัน การเข้ามารับประทานอาหารที่นี่ต้องแต่งชุดสุภาพ สวมสูทหรือเดรสได้ยิ่งดี ส่วนรสชาติอาหารที่เสิร์ฟทั้งหมด 5-6 คอร์สถือว่าอยู่ในระดับดีพอควร ถ้าใครชอบอาหารฝรั่งเศสก็อาจรู้สึกชอบมาก
ราคา: Dinner course เริ่มต้นที่ 190 ยูโร ควรจองล่วงหน้าหลายเดือน
การเดินทาง: สถานีรถไฟ Champ de Mars Tour Eiffel หรือสถานีรถไฟใต้ดิน Bir-Hakeim
เว็บไซต์: www.lejulesverne-paris.com
Pierre Sang (ปิแอร์ แซง)
ร้านของ Pierre Sang เชฟชื่อดังระดับโลกเจ้าของรางวัลชนะเลิศจากรายการ Top Chef ของฝรั่งเศสเมื่อปี 2011 มีอยู่ทั้งหมด 3 ร้านในละแวกเดียวกัน แต่ละร้านมีจุดเด่นต่างกันไป โดยร้านที่เราไปเป็นสาขาที่ 2 ซึ่งอยู่ที่ถนน Gambey เชฟผู้นี้เป็นลูกกำพร้าเกิดที่เกาหลีใต้แต่ได้รับการอุปการะมาอยู่ฝรั่งเศสตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ทำให้เขาซึมซับวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวฝรั่งเศสจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
แน่นอนว่าความโดดเด่นของร้านอาหารแห่งนี้อยู่ที่การผสมผสานของอาหารฝรั่งเศสที่มีกลิ่นอายความเป็นเอเชียได้อย่างลงตัว โดยไฮไลต์คือเมนูแต่ละวันจะไม่ซ้ำเดิม แปรเปลี่ยนไปตามจินตนาการและแรงบันดาลใจของเชฟ ทำให้ผู้มารับประทานได้รับประสบการณ์แปลกใหม่อยู่เสมอ นอกจากนี้บรรยากาศในร้านที่ดูเป็นกันเอง เชฟคอยเอาใจใส่ดูแลแขก และดูไม่ซีเรียสจนเกินไป ก็เป็นอีกอย่างที่ส่วนตัวแล้วชอบมากๆ
ราคา: แบบคอร์ส มื้อกลางวันเริ่มต้นที่ 20 ยูโร มื้อเย็น 49 ยูโร ควรจองล่วงหน้า
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Oberkampf หรือ Parmentier
เว็บไซต์: www.pierresang.com
Bateaux Parisiens (บาโตซ์ ปารีเซียง)
ปารีสขึ้นชื่อเรื่องบรรยากาศสุดโรแมนติกริมฝั่งแม่น้ำแซนอยู่แล้ว ดังนั้นอีกประสบการณ์สุดพิเศษก็คือการได้ดื่มด่ำบรรยากาศอาหารมื้อพิเศษบนเรือกระจกใส เรือสุดหรูลำนี้จะล่องไปตามแม่น้ำแซนเป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่งพร้อมกับเสิร์ฟอาหารสไตล์ฝรั่งเศสที่มาเป็นคอร์สซึ่งสามารถเลือกล่วงหน้าได้
ลองจินตนาการว่ามันจะดีแค่ไหนถ้าได้รับประทานอาหารตำรับฝรั่งเศสขนานแท้พร้อมกับชมวิวสถาปัตยกรรมสุดงดงามของปารีสตลอดสองข้างของแม่น้ำแซน โดยพนักงานจะคอยบอกตลอดว่าอาคารนี้คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ทำให้นอกจากอิ่มท้องและอิ่มบรรยากาศแล้วยังได้ความรู้ติดตัวกลับไปด้วย
ราคา: Dinner Course เริ่มต้นที่ 99 ยูโร ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้า
การเดินทาง: ใกล้ที่สุดคือป้ายรถเมล์ Tour Eiffel หรือสถานีรถไฟ Champ de Mars-Tour Eiffel
เว็บไซต์: www.bateauxparisiens.com
La Fourmi Ailée (ลา ฟูร์คมี เอเย่)
เดิมทีร้านอาหารบรรยากาศน่ารักนั่งสบายๆ ที่ดัดแปลงมาจากร้านขายหนังสือเก่าแห่งนี้เป็นแหล่งรวมพลของเหล่าปัญญาชนที่มักมาจิบชากาแฟนทานขนมยามบ่ายพร้อมอ่านหนังสือหรือพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างกัน แต่ระยะหลังเริ่มมีเมนูอาหารจานหลักเพิ่มมากขึ้น ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกรับประทานได้ทั้งมื้อหนักและมื้อเบา
แม้ร้านจะมีพื้นที่ไม่มากนักแต่ก็ประดับประดาตกแต่งในแบบย้อนยุคได้อย่างสวยงามลงตัว โดยเน้นที่หนังสือเก่าที่เรียงตัวอยู่บนชั้นวางและภาพวาดอาร์ทๆ ที่แปะอยู่ตามผนัง ภาพรวมเป็นร้านที่บรรยากาศสบายเหมือนอยู่บ้าน เหมาะมานั่งรับประทานอาหารฝรั่งเศส จิบชา และพูดคุยกันจริงๆ
ราคา: อาหารจานหลักเริ่มต้นที่ประมาณ 16 ยูโร
การเดินทาง: สถานีรถไฟใต้ดิน Saint-Michel – Notre-Dame หรือ Cluny – La Sorbonne

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น